ซื้อน้ำอัดลมมาดื่มกับพบว่าข้างในมีใยสีดำเหนียวข้น

        เมื่อ วันที่ 15 เดือนตุลาคมปีพ.ศ. 2563  ได้มีหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเป็นคนจังหวัดชลบุรีได้มีการโพสต์ Facebook ส่วนตัวและชี้แจงรายละเอียดของข้อความใน Facebook โดยเธอระบุว่าเป็นการโพสต์เตือนภัยสำหรับคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลม  ซึ่งเธอได้เล่ารายละเอียดใน Facebook ของเธอว่าปกติแล้วเธอเป็นคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมมากโดยเธอจะซื้อน้ำอัดลมนั้นมาดื่มเป็นประจำทุกวัน 

          ซึ่งน้ำอัดลมที่เธอดื่มนั้นเป็นน้ำอัดลมยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งพี่มีการโฆษณายาต่อเนื่องในทีวีในขณะนี้โดยเธอบอกว่าในขณะที่เธอดื่มน้ำอัดลมหมดไปแล้วนั้นโดยปกติแล้วเธอจะเก็บกระป๋องน้ำอัดลมเอาไว้เพื่อนำไปขายต่อซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อกินน้ำอัดลมหมดแล้วเธอจึงได้เทกระป๋องน้ำอัดลมอีกครั้งหนึ่งเพราะเกรงว่าอาจจะมีน้ำอัดลมค้างอยู่ในกระป๋องแต่หลังจากที่เธอออกมานั้นปรากฏว่ามีใยสีดำร่วงออกมาด้วยและเมื่อลองจับดูไยสีดำดังกล่าวนั้นมีลักษณะของความเหนียวและความข้น 

            ซึ่งตัวเธอเองนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรด้วยความสงสัยเธอจึงได้ตัดกระป๋องเพื่อจะได้ดูว่าไยสีดำข้างในนั้นคืออะไรและได้มีการถ่ายคลิปวีดีโอขณะที่มีการตัดกระป๋องไว้ด้วยเพื่อเอาไว้ใช้เป็นหลักฐาน หลังจากที่เคยเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ปนมาในกระป๋องน้ำอัดลม  สาวจึงได้มีการไปที่เว็บไซต์ของบริษัทน้ำอัดลมดังกล่าวพร้อมทั้งได้มีการบอกเล่าสิ่งที่เธอพบเจอและต้องการถามหาความรับผิดชอบและคำอธิบายจากบริษัทน้ำอัดลมแต่หลังจากที่เธอติดต่อไปเป็นระยะเวลาหลายวันก็ไม่มีการตอบกลับมาจากบริษัทน้ำอัดลมแต่อย่างใดเธอจึงได้โพสต์เรื่องราวนี้เอาไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้กับคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมให้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน

           หรือทางที่ดีก็ควรที่จะซื้อน้ำอัดลมที่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้นั่นก็คือการซื้อกินแบบเป็นขวดแทนที่จะซื้อเป็นแบบกระป๋องเพราะการซื้อกินแบบกระป๋องนั้นจะไม่สามารถมองเห็นด้านในซึ่งอาจจะมีสิ่งปนเปื้อนอยู่ภายในได้เบื้องต้นหญิงสาวได้เก็บไยสีดำนั้นเอาไว้โดยเก็บไว้ในถุงซิปล็อคเพื่อเอาไว้เป็นหลักฐานหากว่าทางบริษัทน้ำอัดลมติดต่อมาก็สามารถที่จะมาตรวจขอหลักฐานจากเธอได้  

           อย่างไรก็ตามเธออยากเรียกร้องให้กับบริษัทน้ำอัดลมได้มีการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของสินค้าของตนเองก่อนที่จะมีการส่งออกขายให้กับประชาชนเพื่อที่ประชาชนนั้นจะได้ไม่มีความเสี่ยงในการที่จะกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไปและอาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิตของพวกเขาได้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยออนไลน์

เป็นยาแก้ปวดขนานแท้ หนึ่งในสรรพคุณของกัญชา

สุดยอดสมุนไพรที่โลกกล่าวหาว่าเป็นสิ่งไม่ดีมาอย่างนานแสนนานนี้ ในวันที่ได้ถูกปลดปล่อยให้เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณระดับโลกนี้ มันก็ได้ถูกยอมรับในฐานะสมุนไพรทางการแพทย์โดยทันที เรียกได้ว่าเหมือนกับทั้งโลกก็รู้จักมันดีอยู่แล้วเรื่องของสรรพคุณของมันแต่กลับต้องจำใจคิดกับเจ้ากัญชาเป็นเด็กไม่ดีแบบนี้ เพราะว่าอีกหนึ่งสรรพคุณที่ทำให้เกิดการมอมเมานั้นเอง

ในวันที่มันควบคุมได้ยาก รัฐบาลและตำรวจจึงต้องจัดการมันยังไงล่ะ แต่ว่าสำหรับทางการแพทย์นั้น ได้ทราบดีถึงความสุดยอดของกัญชามาอย่างยาวนานแล้วล่ะ แล้วสุดยอดสรรพคุณที่ไม่ใช่แค่หาใครทำได้เท่าอย่างการเป็นยาแก้ปวดระดับที่ใช้ทำเป็นยาแก้ปวดระดับสูงเลยทีเดียว ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้กับทุกอาการปวดนะ ต้องเป็นอาการปวดที่ร้ายแรงพอสมควรเลย ถึงจะไม่ถึงขั้นมอฟีนก็เถอะ

กัญชานั้น ในวันที่มันเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ก็ใช่ว่าจะมีแต่วัยรุ่นที่พยายามหามาสูบเพื่อความเพลิดเพลินอย่างเดียวหรอกนะ ด้วยสรรพคุณในการเป็นยาที่ระงับอาการปวดได้อย่างดีแบบนี้ ก็ทำให้เหล่าผู้ที่มีอาการปวดหนักๆ อย่างเช่นพวกที่เป็นมะเร็งระยะที่เกิดอาการปวดหนักๆ รวมถึงการปวดหัวจาการเป็นไมเกรน ยังมีอีกหลายโรคเลยล่ะ พวกที่มีอาการของกล้ามเนื้อกระตุกก็ด้วย

คนเหล่านี้ก็หามาสูบเพื่อระงับอาการปวดด้วยเช่นกัน ดังนั้นแล้ว มันจึงเป็นยาแก้ปวดแห่งตลาดมืดที่ได้รับการยอมรับอย่างมาก แล้วเหมือนกับว่าทุกคนก็จะทราบเช่นนั้นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะรัฐบาลหรือตำรวจ เมื่อจับคนใช้กัญชาได้ก็จะได้รับโทษเช่นกัน แต่ว่าถ้าหากว่าจับได้แล้วพิสูจน์ได้ว่าผู้เสพกัญชาใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดละก็

ก็จะได้รับโทษน้อยลงมาก หรือดีไม่ดี ก็ไม่ได้รับโทษเท่านั้น ซึ่งในต่างประเทศนั้น มีการจ่ายยาแก้ปวดเป็นกัญชาจากสถาบันการแพทย์ด้วย ดังนั้นแหละ ผู้ที่สูบก็จะได้รับใบสั่งยาจากแพทย์เพื่อเป็นหลักฐานให้กับตำรวจอีกด้วย แต่ประเทศเรายังไม่มีอะนะ ต้องรอดูว่าที่ประเทศเราปรับเปลี่ยนตรงนี้แล้ว จะมียาแก้ปวดจากกัญชานี้โผล่มาให้ซื้อขายกันหรือปล่าวนะ

ยาแก้ปวดที่ได้จากกัญชานั้น มีฤทธิ์ที่ดีเลิศมากๆ นั้นอาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้เสพเพื่อความเพลิดเพลินรู้สึกดูกับการที่รู้สึกโล่งร่างกาย แล้วเกิดเป็นการเสพติดความรู้สึกก็เป็นได้ด้วย แต่นั้นก็ไม่ได้ถือเป็นสารที่ทำให้รู้สึกติดทางร่างกายอย่างที่ยาเสพติดทำกับเรานั้นเอง ดังนั้นแล้วตรงจุดนี้เป็นคนละประเภทกัน

 

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยออนไลน์

ถ้าร่างกายขาดวิตามินเอ

การดำรงมีชีวิตอยู่ได้นอกจากจะมีปัจจัยของที่อยู่อาศัยแล้ว อีกหนึ่งสำคัญเลยคือจะต้องมีอาหาร เพราะร่างกายของเรานั้นมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับสารอาหารเข้าไป เพื่อทำให้ร่างกายมีแหล่งพลังงาน แหล่งพลังงานเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ร่างกายดึงออกมาใช้ในการทำกิจกรรมในแต่ละวัน และแหล่งอาหารเหล่านี้จะถูกร่างกายนำไปล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกาย ให้มีระบบทำงานที่ปกติไม่มีปัญหา ซึ่งสารอาหารบางอย่างในร่างกายของคนเรานั้นสามารถที่จะสร้างและผลิตขึ้นมาเองได้

โดยที่เราอาจจะไม่ต้องเติมสารอาหารเหล่านั้นเข้าไปช่วยทดแทนอย่างเช่นคอลลาเจน ที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นมาเองได้ภายในร่างกาย แต่ก็จะมีสารอาหารบางประเภทที่ร่างกายนั้นไม่สามารถผลิตขึ้นมาได้เอง และยิ่งไปกว่านั้นเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ นั้นก็คือ สารอาหารประเภทวิตามิน วิตามิน คืออะไร? วิตามิน คือ กลุ่มสารอินทรีย์ ที่ร่างกายนั้นไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จะต้องได้รับจากอาหารจำพวก พืชผักต่างๆ ซึ่งร่างกายมีความต้องการในปริมาณที่ไม่มาก แต่ควรพอเหมาพอดี

เพื่อจะใช้วิตามินร่วมกับสารอาหารอื่นๆ ให้ร่างกายได้ทำงานอย่างปกติ แม้ว่าวิตามินจะไม่ให้พลังงานต่อร่างกาย แต่มันจะถูกนำไปใช้เพื่อสร้างพลังงาน ไม่ได้เป็นโครงสร้างหรือเป็นส่วนประกอบสำคัญต่อเซลล์และเนื้อเยื่อ แต่จะช่วยเข้าไปควบคุมระบบการทำงานของการเผาผลาญ และสร้างสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งในบทความนี้เราจะยกวิตามินตัวหนึ่งมาพูดถึงกัน นั้นก็คือ วิตามินเอ (Retinol) เป็นกลุ่มวิตามินที่ละลายในไขมันและเป็นวิตามินอีกประเภทที่ร่างกายต้องการ เพราะประโยชน์ของวิตามินเอ ได้แก่ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยแก้โรคตาพล่ามัวในตอนกลางคืน ช่วยเสริมสร้างให้กระดูกและฟันแข็งแรง

ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและต้านทานให้ระบบการหายใจ สำหรับบุคคลที่ขาดสารอาหารอย่างวิตามินเอจะมีผลเสียคือ มีปัญหาเรื่องสายตา การมองเห็น โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่ถึงแม้ว่าปกติเราจะมองอะไรไม่ค่อยเห็นในที่มืดอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้เรามีปัญหาในการมองไม่ชัดมากขึ้นไปกว่าเดิม

และในเรื่องของสุขภาพผิว ผิวพรรณจะแห้งไม่มีความชุ่มชื้น ทั้งนี้ยังรวมไปถึงอาการป่วยหรือเป็นโรคได้ง่าย เพราะถ้าหากขาดสารอาหารประเภทวิตามินเอจะทำให้เป็นคนที่ภูมิต้านทานต่ำ ติดเชื้อได้ง่าย เพราะฉะนั้นแล้วควรทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ แหล่งอาหารทางธรรมชาติที่มีวิตามินเออยู่มากได้แก่ ผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม แดง เขียวเข้ม ตับ เนย และ ไข่แดง หรือตัวช่วยอีกทางเลือกก็คือ การทานหารเสริมนั้นเอง

แต่ถึงอย่างไรนั้นก็ควรในปริมาณที่เหมาะสม อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่ได้ต้องการในปริมาณมาก เพราะว่าร่างกายไม่สามารถผลิตวิตามินขึ้นเองได้ แต่ร่างกายก็ยังมีความต้องการอยู่ เราก็ควรที่เติมเต็มส่วนนี้ให้เพียงพอ

 

ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยออนไลน์