ดูแลเครื่องเรือน อย่างไร หลังผ่านพ้นน้ำท่วม

– เครื่องเรือน ทำมาจากไม้

จุดเด่นของเครื่องเรือนที่ทำมาจากไม้ โดนน้ำได้ ซึ่งจะไม่มีผลเสียหายมากสักเท่าไรนัก แม้กระนั้น ความหมายคือว่าเป็นไม้ล้วน ๆ อีกทั้งแท่ง ไม่ใช้ไม้อัด แม้เป็นไม้อัดหละก็ แน่ ๆ ว่า ถ้าเกิดโดนอุทกภัยหนัก ๆ เครื่องเรือนชิ้นนั้น ก็จะไม่อาจจะนำกลับมาใช้ได้อีกเลย เหตุเพราะจะมีการพอง ขยายตัว

ถ้าหากแช่น้ำนาน ๆ ก็จะยุ่ยเสียหายไปในทันที แต่ว่าถ้าเป็นไม้เนื้อแข็ง ไม่ต้องกังวลไป แค่เพียงคุณเอามาตั้งไว้ให้แห้ง แต่ว่ามีข้อต่อรองว่า ห้ามตั้งผึ่งแดด แค่เพียงตั้งเอาไว้ในที่ร่ม รอคอยให้มันแห้ง ระบายความชุ่มชื้นออกให้หมดไปก่อน

ถ้าแน่ใจว่า  ฮอยอาน่า     ความชุ่มชื้นออกไปในระดับหนึ่งแล้ว ก็สามารถนำไปผึ่งแดดได้ คุณอาจจะลงสีหรือแล็กเกอร์เพิ่มเติมอีก เพื่อความเงาสวยขึ้นก็ได้

– เครื่องเรือน ทำมาจากเหล็ก

จุดเด่นของเหล็ก แน่ ๆ ว่า แข็งแรงกว่าไม้ แม้กระนั้นถ้าเกิดเหล็กชิ้นนั้น มิได้เป็นเหล็กที่ปราศจากสนิม ได้แก่ สแตนเลส อลูมิเนียม แม้มีความชื้น หรือโดนน้ำนองเป็นระยะเวลานาน จะก่อให้กำเนิดสนิม แนวทางแก้ เพียงคุณขัดล้างชำระล้างให้ดี อย่าให้มีรอยเปื้อนค้างอยู่ แล้วทิ้งเอาไว้ให้แห้ง

จะผึ่งแดดด้วยก็จะเป็นเรื่องดี เนื่องจากว่าอุณหภูมิของแดด มิได้ส่งผลเสียกับเหล็ก เมื่อแห้งสนิทก็ดี ถ้าหากเป็นเหล็กที่เป็นสนิม

ก็ให้กระทำขัดสนิมออกก่อน คุณอาจไปซื้อน้ำยาขัดสนิมมาสักชุด เพื่อทุนแรงขัดถูกได้ดีมากยิ่งกว่า รวมทั้งคุ้มครองป้องกันการเกิดสนิมอีกขั้น โดยการทาสีทับ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เครื่องเรือนคืนกลับมาแล้วหละ บางทีอาจมองใหม่กว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ

– เครื่องเรือน ทำมาจากหินหรือปูน

หินหรือปูน ไม่กลัวน้ำ และแดด ทนทานมาก ๆ ต่อสภาพแวดล้อม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกแช่ไว้ในน้ำนาน ๆ ก็จะทำให้กำเนิดคราบเปื้อนเลอะเทอะ ซึ่งมีความสกปรกได้ คุณแค่เพียงใช้น้ำยาที่ใช้เพื่อการทำความสะอาด หรือผงซักผ้าก็ได้ใช้แปลงที่มีขนแข็งขัดให้สะอาด แค่เพียงนี้ก็ใช้การได้แล้ว

– เครื่องเรือน มีส่วนของใยนุ่นผสม

เครื่องเรือนชนิดดังที่กล่าวมาแล้วนี้ มักเป็นพวกโซฟา เตียง ด้วยเหตุว่าอยากความละมุนละไมสำหรับในการสัมผัส อุปกรณ์ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ถ้าหากโดนน้ำนองเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจจะส่งผลให้กำเนิดเชื้อโรคสะสมด้านใน แล้วก็มีกลิ่นเหม็นอับ ถ้าเกิดเป็นเครื่องเรือน

ซึ่งสามารถแกะมาชำระล้างได้ ท่านก็สามารถนำออกมาล้างน้ำชำระล้าง แล้วก็ตากให้แห้งสนิท แม้กระนั้นถ้าเป็นแบบสำเร็จรูป ที่ไม่สามารถที่จะแกะมาได้ ถ้าไม่ตรากตรำนัก ก็เสนอแนะให้ซื้อใหม่จะดีมากกว่า แต่ว่าถ้ายังไม่พร้อมที่จะซื้อ ก็บางทีอาจจำเป็นต้องใช้ผ้ามาหุ้มไว้อีกชั้น เพื่อปกป้องเชื้อโรคในระดับหนึ่ง เมื่อพร้อมก็ค่อยซื้อใหม่

หลังสร้างบ้าน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมเลยก็คือ…การตรวจรับบ้าน

ก่อนสร้างบ้านเราจะต้องหาข้อมูลความรู้บริษัทรับทำหรือผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้แล้ว หลังจากสร้างบ้านเสร็จแล้ว ก็ต้องเตรียมบริษัทรับตรวจบ้านก่อนลงชื่อรับมอบไว้ด้วย เพราะเป็นตัวช่วยที่ดีในการตรวจสอบเรื่องบ้านที่เราไม่รู้ได้เยอะมาก ๆ ทีเดียว

คนตรวจรับบ้านเป็นคนไหน รวมทั้งควรจะมีคุณลักษณะเช่นไร ?

คนตรวจสอบบ้านหรือตรวจทานบ้านควรเป็น วิศวกรหรือสถาปนิก ที่มีใบประกอบการทำงานเฉพาะเกี่ยวกับการตรวจทานบ้าน รวมถึงนิติบุคคลหรือบริษัทที่มีใบประกอบวิชาชีพที่ได้ขึ้นบัญชีเป็นคนตรวจสอบกับคณะกรรมการควบคุมตึก โดยการผ่านการอบรมจากสถาบันฝึกหัดที่คณะกรรมการควบคุมตึกได้กระทำการันตีไว้อย่างแม่นยำโดยชอบด้วยกฎหมาย

ทำให้การตรวจทานบ้านหรือตึกควรจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและก็มากมายด้วยประสบการณ์แค่นั้นก็เลยจะยอดเยี่ยม ไม่เพียงแค่จะสามารถวิเคราะห์ความเรียบร้อยของบ้านได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วนั้น คนตรวจสอบบ้านที่ดีจำเป็นต้องสามารถเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย

สาระสำคัญที่ควรจะพิจารณาก่อนส่งบ้าน

บริษัทตรวจทานบ้านจะกระทำการตรวจเช็คระบบองค์ประกอบอีกทั้งด้านในและก็ข้างนอกให้ท่านอย่างละเอียดถี่ถ้วนร่วมกัน 4 หมวดหลัก ดังต่อไปนี้

1.หมวดงานหลังคา: ตรวจตราการรั่วซึมจากรอยต่อของกระเบื้องหลังคา ตรวจตราความชุ่มชื้นรอบ ๆ ฝ้าเพดาน รวมทั้ง  เครื่องช่วยฟัง    พิจารณาองค์ประกอบความแข็งแรงของหลังคา ฯลฯ

2.หมวดการงานตกแต่งและก็ข้างนอก : พิจารณางานฝาผนังข้างในรวมทั้งข้างนอก พิจารณางานพื้น สำรวจงานวงกบของประตูแล้วก็หน้าต่าง พิจารณางานระเบียง ตรวจทานงานบันได แล้วก็อื่น ๆ ที่เกี่ยวพัน ฯลฯ

3.หมวดงานเขตสุขาภิบาล : ตรวจดูการปูกระเบื้องที่ทำให้เกิดจุดน้ำนอง งานยาแนว งานระบายน้ำ การระบายของอากาศด้านในห้อง พิจารณาระบบเครื่องสุขภัณฑ์ว่าดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงสำรวจถังบรรเทาและก็ถังดักไขมัน ฯลฯ

4.หมวดงานระบบกระแสไฟฟ้า : ตรวจดูงานเดินระบบกระแสไฟฟ้าด้านในตัวบ้าน ตรวจทานลักษณะการทำงานของหลอดไฟฟ้าทุกดวง สำรวจสายดินที่เต้ารับ ตรวจตรารูปแบบการทำงานของสวิตช์ไฟ พิจารณากำลังวัตต์ไฟข้างในบ้าน สำรวจกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหล ฯลฯ 

ซึ่งทั้งยัง 4 หมวด ที่กล่าวมาล้วนแต่เป็นการวิเคราะห์ที่มีความหมายเป็นอย่างมากต่อส่วนประกอบแล้วก็การใช้แรงงานของผู้พัก เพื่อลดการเสี่ยงของปัญหาที่เจ้าของบ้านจำเป็นจะต้องเผชิญตอนหลังได้

มองเห็นไหมครับผมว่า การตรวจทานบ้านกับผู้ที่มีความชำนาญหรือบริษัทรับออกแบบบ้านนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ควรจะให้เป้นจุดสำคัญอย่างมากมายก่อนที่จะมอบบ้าน เนื่องจากไม่เพียงแค่คุณจะได้บ้านงามตรงตามสเปคแล้ว ยังช่วยทำให้คุณมั่นอกมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ความแข็งแรง แล้วก็ความคงทนขององค์ประกอบของตัวบ้านได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะส่งบ้านทุกหนอย่าลืมใช้บริการตรวจทานบ้านกับผู้ที่มีความชำนาญหรือบริษัทตรวจทานบ้านกันครับ

แนะนำวิธีเผาผลาญไขมันได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย

การมีระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนคงต้องการกันเป็นอย่างมาก เพราะการมีระบบเผาผลาญที่ดี จะช่วยให้ร่างกายของเราสามารถเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง

ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีพฤติกรรมการทำร้ายสุขภาพร่างกาย รวมไปถึงการทำร้ายระบบเผาผลาญไขมันของตนเองอยู่เสมอ

ฉะนั้น หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การที่เราจะมีสร้างระบบเผาผลาญไขมันที่ดีได้นั้น สมัยนี้สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

เพราะการออกกำลังกายจะสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายได้ ทำให้ระบบเผาผลาญของเราทำงานได้ง่ายมากขึ้น  ฮอยอาน่า   เพื่อสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงนั่นเอง

ดังนั้น เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับการมีระบบเผาผลาญไขมันที่ไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการออกกำลังกาย เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ ซึ่งหากเราทำเป็นประจำรับรองได้เลยว่าจะทำให้เรามีระบบเผาผลาญไขมันที่ดีได้ 

การกินโปรตีนให้เพียงพอ หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า โปรตีนสำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะการที่เรากินโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อดีให้แก่ร่างกายของเราได้ ทำให้ร่างกายของเราสามารถออกกำลักงายได้ยาวนานากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญไขมันของเรานั่นเอง 

การดื่มน้ำให้มากขึ้น น้ำเป็นหนึ่งในส่วนปนะกอบสำคัญต่อร่างกายของเรา ซึ่งในแต่ละวันร่างกายของเราควรจะได้รับปราณน้ำอย่างเพียงพอ ฉะนั้น หากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบเผาผลาญไขมันไม่ดี ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ รู้หรือไม่ว่า น้ำ เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้ ช่วยเผาผลาญพลังงานภายในร่างกายได้ ยิ่งถ้าเราในระหว่างวันนั้นเราดื่มน้ำให้มากขึ้น ก็จะยิ่งดีต่อระบบเผาผลาญของเรานั่นเอง 

การกินคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการทานแป้ง หรือน้ำตาลกันมากขึ้น จึงก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้นกับร่างกายของเรา ซึ่งทางที่ดี หากอบากให้ระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายของเรทำงานได้อยางราบรื่น การที่เราบริโภคน้ำตาบ หรือแป้งให้น้อยลง อาจจะช่วยให้ระบบเผาผลาญไขมันภายในร่างกายของเรานั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ แถมยังช่วยให้ร่างกายของเราไม่สะสมไขมันไว้อีกด้วย 

 

รู้จักชนิดของกระเบื้อง แตกต่างและเหมาะสมต่อการใช้งานอย่างไร

รู้จักชนิดของกระเบื้อง กระเบื้องแต่ละจำพวกมีลักษณะแล้วก็คุณลักษณะนา ๆ ประการ ก็เลยเหมาะสมกับการใช้งานคนละอย่าง ก่อนเลือกใช้กระเบื้องแต่ละชนิด จำเป็นจะต้องพิจารณาถึงสิ่งของที่ใช้ จุดเด่น-ข้อด้อย ของกระเบื้องแต่ละจำพวก เพื่อซึ่งสามารถเลือกกระเบื้องได้ตรงกับจุดประสงค์ของการใช้งานเยอะที่สุด

กระเบื้องเซรามิค

เป็นกระเบื้องยอดนิยมมากมาย ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย ลวดลายงดงาม แบ่งได้เป็น 2 จำพวกหมายถึงกระเบื้องปูพื้นแล้วก็กระเบื้องปูฝาผนัง ซึ่งไม่ชี้แนะให้เอากระเบื้องปูฝาผนังไปใช้สำหรับปูพื้นด้วยเหตุว่าถูกวางแบบมาให้รับน้ำหนักได้ไม่เหมือนกัน และก็กระเบื้องเซรามิคยังมีค่าดูดซับน้ำสูงเวลาเปียกน้ำ นำมาซึ่งการทำให้ผิวมีความลื่นไถลมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุก็เลยไม่สมควรใช้ปูพื้นในห้องสุขา

 

กระเบื้องดินเผา

ทำให้พื้นเย็นสบาย ไม่อมความร้อน ให้ความรู้ความเข้าใจสึกสวยสดงดงามเป็นธรรมชาติ ราคาถูก แม้กระนั้นไม่ค่อยแข็งแรงรวมทั้งชำระล้างยาก กระเบื้องมีการซับน้ำสูงก็เลยไม่สมควรปูรอบ ๆ ใกล้น้ำเพราะเหตุว่าจะมีปัญหาคราบเปื้อนตะไคร่เกาะแล้วก็หลุดล่อนง่าย

 

กระเบื้องพอร์ซเลน

มีความแข็งแรง ทนต่อการเสียดสีและก็รอยขูดขีด สามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ปูได้อีกทั้งพื้นที่  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก    แฉะหรือพื้นธรรมดา นิยมปูตามทางเดินตึก รอบ ๆ ที่ใช้งานบ่อยมาก

 

กระเบื้องโมเสค

เป็นกระเบื้องขนาดเล็ก ลักษณะวับ ๆ งามเรียงต่อกัน เมื่อเอามาปูพื้นก็เลยมองสวยสดงดงาม แปลกใหม่ สีไม่ซีดเผือดง่าย ทนกรด ด่าง แล้วก็ทนต่อการกัดกร่อน ก็เลยนิยมประยุกต์ใช้ตกแต่ง ผนัง หรือ ใช้สำหรับปูพื้นสระว่ายน้ำ ด้วยคุณลักษณะที่ระบายน้ำเจริญ แม้กระนั้นออกจะชำระล้างยากเพราะว่ามีร่องระหว่างรอยต่อของกระเบื้องมากมาย

 

กระเบื้องแก้ว

มีลักษณะชิ้นเล็กเหมือนกระเบื้องโมเสค แต่ว่ามีความมันวาวและก็โปร่งแสงกว่า จำนวนมากนิยมนำไปเสริมแต่งตกแต่งมากยิ่งกว่านำไปปูพื้นด้วยเหตุว่ารับน้ำหนักได้ไม่มากไม่มายอะไร รวมทั้งราคาแพงมาก ๆ

 

กระเบื้องหินอ่อน

ทำมาจากหินอ่อน มีความเย็นอยู่ในตัว มักใช้สำหรับปูพื้นในโฮเต็ลหรือตึก เนื่องจาก ให้ความรู้ความเข้าใจ ถึงความสง่างาม มองหรูหรา แต่ว่ามีน้ำหนักออกจะมากมาย ดูแลยากต้องระมัดระวังเรื่องรอยขูดขีดรวมทั้งรอยด่าง

 

ทั้งนี้กระเบื้องแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันไป และเหมาะสมกับการใช้งานไม่เหมือนกัน การจะเลือกมาใช้งานหรือออกแบบดีไซน์ห้องแต่ละห้องก็อาจจะต้องคำนึงถึงสิ่งที่กล่าวมาด้วย เนื่องจากคุณอาจจะได้กระเบื้องที่ชอบ แต่การใช้งานไม่เหมาะสม พังง่าย แตกง่าย หรือแม้กระทั่งว่าอาจจะได้กระเบื้องที่เหมาะสมแต่ไม่เข้ากับบ้านไม่ถูกใจเจ้าของบ้าน ดังนั้นพิจารณาและไตรตรองให้ดีก่อน

โรคไข้หวัดกับไข้หวัดใหญ่แตกต่างกันอย่างไร 

รวมกัน 104+ ภาพ ไข้หวัดใหญ่ การ์ตูน ครบถ้วน

ไข้หวัดกับไข้หวัดใหญ่แตกต่างกันอย่างไร  สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับความแตกต่างของโรคไข้หวัดกับไข้หวัดใหญ่  ว่ามีความเหมือนหรือความต่างกันอย่างไรโดยเราจะมีการเริ่มกันที่ข้อมูลของโรคไข้หวัดก่อนซึ่งโรคชนิดนี้เราสามารถพบเห็นผู้คนเป็นกันได้บ่อยมาก 

โดยหลายคนมีความเชื่อว่าการเป็นไข้หวัดนั้นจะต้องมาจากการที่เราไปตากฝนแต่อันที่จริงแล้วเพียงแค่อุณหภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำให้เราเป็นโรคไข้หวัดได้แล้วซึ่งเรามักจะเห็นว่าแม้แต่ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนไม่มีฝนตกเลยแล้วก็สามารถเป็นโรคไข้หวัดได้เช่นกัน

ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดนั้นสามารถป่วยได้ตลอดทั้งปีไม่สนว่าจะเป็นฤดูกาลไหนก็ตามซึ่งเชื้อโรคที่ทำให้เกิดไข้หวัดนั้นมีมากมายหลายสายพันธุ์โดยจะเป็นเชื้อไวรัสซึ่งโดยปกติแล้ว เชื้อไวรัสที่ทำให้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดนั้นจะมีอาการไม่รุนแรงมากนักและเราสามารถที่จะรักษาอาการป่วยนี้ด้วยกันกินยาและพักผ่อนและใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นอาการก็จะดีขึ้นโรคที่มากับฤดูฝน

สำหรับอาการส่วนใหญ่ของคนเป็นโรคไข้หวัดนั้นมักจะมีอาการตัวร้อนปวดหัวรวมถึงเจ็บไข้เสียงแหบและอาจจะมีคัดจมูกน้ำมูกไหลซึ่งอาการเหล่านี้นั้นจะเป็นเพียงแค่อาการเล็กน้อยไม่รุนแรงมากนักส่วนไข้ก็ไม่สูงโดยปกติแล้วการเป็นไข้นั้นจะใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้นก็จะหาย

ส่วนถ้าหากใครมีอาการน้ำมูกไหลคัดจมูกก็อาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10-14 วันก็จะหายเช่นเดียวกันดังนั้นหากใครเป็นไข้หวัดไม่จำเป็นที่จะต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลเพียงแค่พักผ่อนและกินยาที่บ้านก็สามารถรักษาให้หายได้แล้ว 

ในขณะเดียวกันสำหรับใครที่เป็นโรคไข้หวัดใหญ่นั้นมักจะมีอาการรุนแรงกว่าและเป็นนานกว่าเนื่องจากว่าเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่นั้นมีชื่อว่า influenza ซึ่งสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่อาการอาจจะไม่รุนแรงมากนักแต่ก็เป็นอาการที่รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาแต่ถ้าหาไปเจอไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นๆอย่างเช่นสายพันธุ์ A หรือแม้แต่สายพันธุ์ B ก็อาจจะทำให้มีอาการรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์ influenta ก็เป็นไปได้ 

สำหรับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ infosan นั้นจะมีอาการไข้สูงขึ้นซึ่งลักษณะของไข้นั้นจะอยู่ที่ 38 องศาเป็นต้นไปและจะมีอาการไข้สูงติดต่อกัน 4-5 วันนอกจากนี้ยังมีอาการปวดเนื้อปวดตัวและปวดหัวร่วมด้วยหรือบางคนนั้นอาจจะมีอาการเจ็บคอไอแห้งๆและบางครั้งอาจจะมีน้ำมูกได้

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่หรือแม้แต่ไข้หวัดธรรมดาอาการก็จะมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากเพียงแต่ละตัวเชื้อไวรัสนั้นจะเป็นคนละสายพันธุ์กันนั่นเองซึ่งวิธีการรักษาก็ไม่แตกต่างกันด้วยเราจำเป็นที่จะต้องกินยาลด

 

 

 

สนับสุนโดย    เครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว

มาทำความรู้จักกับโรคพิษสุนัขบ้าและแนวทางการรักษาโรคพิษสุนัขบ้ากัน

 

โรคพิษสุนัขบ้าคืออะไร

โรคพิษสุนัขบ้าคือโรคที่เกิดจากไวรัสพิษสุนัขบ้า (Rabies virus) ซึ่งเป็นไวรัสที่สามารถถ่ายทอดจากสัตว์ที่ติดเชื้อไปยังมนุษย์ผ่านทางน้ำลายหรือน้ำลายที่ปนเปื้อนเลือดผู้ติดเชื้อ

เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ผ่านแผลบาดเจ็บหรือเยื่อบุตาที่มีรูหรือรอยบาดที่บาดเจ็บ ไวรัสจะกระจายไปยังระบบประสาททางส่วนประสาทกลาง และส่วนที่สำคัญคือสมอง ทำให้เกิดอาการทางประสาท เช่น ระคายเคือง กลัวน้ำ ลมพิษทางประสาท และอาจสิ้นเปลืองถึงการหายใจและทำให้เสียชีวิตได้

การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าสำคัญที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกันที่เรียกว่าวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย การฉีดวัคซีนนี้สามารถป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อได้ ในกรณีที่มีการถูกกัดหรือถูกสัมผัสทางอื่นที่เสี่ยง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม

แนวทางการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า คืออะไร

การรักษาโรคพิษสุนัขบ้ามีขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติโดยเร่งด่วน เนื่องจากโรคนี้มีอาการที่ร้ายแรงและมักจะทำให้เสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาทันที โดยมีแนวทางการรักษาที่สำคัญดังนี้

 1.การล้างแผล: หลังจากถูกกัดหรือสัมผัสสารน้ำลายของสัตว์ที่เป็นพิษสุนัขบ้า ควรทำการล้างแผลที่ถูกบาดเจ็บด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือเพื่อลดจำนวนไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย

 2.การฉีดวัคซีนป้องกัน: ในกรณีที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ การฉีดวัคซีนป้องกัน (Post-exposure prophylaxis) เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะป้องกันการพัฒนาโรค วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพมากเมื่อได้รับที่ระยะเร็วที่สุดหลังจากการสัมผัส

 3.การให้ก๊าซหรือรังสีแรงสูง (Post-exposure prophylaxis): ในบางกรณี การให้ก๊าซนิโตรจีน (Nitrous oxide) หรือรังสีแรงสูง (Radiation therapy) อาจถูกใช้เพื่อทำลายไวรัสในระหว่างที่ระบบประสาทยังไม่ได้ถูกทำลาย

 4.การรักษาทางสังคม: ในกรณีที่มีอาการที่รุนแรงและเกิดความเสี่ยงต่อผู้อื่น ผู้ป่วยอาจต้องถูกนำเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาทางสังคม โดยที่ผู้รักษาจะให้การรักษาที่เหมาะสมเพื่อควบคุมอาการและป้องกันการถ่ายทอด

 หากมีสัญญาณของโรคพิษสุนัขบ้าหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์เพื่อให้ได้การประเมินและรักษาที่เหมาะสมทันที โดยการรักษาทันทีหลังจากการกัดสุนัขสามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้มาก ไม่ควรรอให้เกิดอาการหากพบว่ามีการถูกกัดจากสุนัขก็ควรที่จะรีบไปโรงพยาบาล คลินิก หรือสาธารณะสุขที่อยู่ใกล้คุณให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันอันตรายจากโรคพิษสุนัขบ้า

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    theocean-trip.com

โรคฮิตที่ชอบคุกคามวัยทำงาน

รู้หรือไม่ว่า วัยทำงานส่วนใหญ่นอกจากจะใช้ชีวิตเต็มที่ไปด้วยการทำงานแล้ว ยังมักที่จะไม่คำนึงถึงการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง ปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองจนส่งผลให้ร่างกายนั้นได้รับผลกระทบ หรือความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย เพราะแน่นอนว่าในสมัยปัจจุบันนี้โรคภัยไข้เจ็บ อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและตลอดเวลา

ยิ่งถ้าร่างกายของเราอ่อนแอมาก ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยวได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ฉะนั้น ไม่ว่าเราจะใช้ชีวิตกันด้วยความเร่งรีบ

หรือทำงานหนักมากขนาดไหนก็ตาม เราก็ไม่ควรที่จะปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพราะคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะวัยทำงาน ก็คงอยากที่จะมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง เพื่อเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการใช้ชีวิตในประจำวันให้มีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวัยทำงานส่วนใหญ่นั้นมักที่จะมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย ซึ่งวันนี้เราก็จะพาพาทุกคนไปดูกันว่า โรคฮิตที่มักคุกคามวัยทำงานจะมีโรคร้ายอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 

 

  • โรคเครียดลงกระเพาะ

แน่นอนว่าวัยทำงานส่วนใหญ่นั้นมักที่จะใช้ชีวิตกันด้วยความกดดัน ความเครียด จนส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจจะทำให้ระบบประสาททำการกระตุ้นให้ประเพาะอาหารเกิดการหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ และอาจทำให้เรานั้นรูสึกระคายเคืองกระเพาะอาหาร จนส่งผลให้เรานั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะอาหารได้นนั่นเอง ซึ่งโรคนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในโรคที่วัยทำงานส่วนใหญ่นั้นจะต้องพบเจอกันอยู่บ่อย ๆ นั่นเอง 

 

  • โรคกรดไหลย้อน

เป็นอีกหนึ่งโรคที่วัยทำงานจะต้องเจอกันอย่างแน่นอน เพราะโรคนี้เกิดขึ้นจากการที่เราทานอาหารไม่ตรงเวลา โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตด้วยความเร่งรีบ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมการทานอาหารรสจัด ของทอด หรือดื่มน้ำอัดลมเยอะจนเกินไป ก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคยอดฮิตอย่างโรคกรดไหลย้อนได้ ดังนั้น การที่เราให้ความสำคัญกับการเลือกทานอาหาร ก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม

 

  • โรคปลอกประสาทอักเสบ

เป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตที่มักจะคุกคามวัยทำงานกันอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากวัยทำงานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย เพราะจะต้องนั่งทำงานอยู่กับที่ตลอดเวลา จึงอาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็ง และเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัมพาตได้ ดังนั้น ไม่ว่าเราจะทำงานหนักมากขนาดไหนก็ตาม

เราก้ควรที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้าย และเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพร่างกาย เพื่อให้เรานั้นสามารถใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังราคาถูก

อาการเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มองข้ามการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง จนอาจทำให้ร่างกายนั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหัวใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่มีความอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก

การเป็นโรคหัวใจ เพราะหัวใจเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อร่างกาย เพราะจะมีหน้าที่คอยสูบฉีดเลือดเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ หรืออวัยวะต่าง ๆ

ภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การที่เราจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีได้นั้น สิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่ไปด้วย

โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจของเราให้แข็งแรง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ แต่ทว่า ถึงแม้ว่าเราจะดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองดีมากขนาดไหนก็ตาม

แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังคงมีพฤติกรรมที่อาจทำให้ตนเองนั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก   โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ชีวิต ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีพฤติกรรมหรืออาการไหนบ้างที่ทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ไปดูกันเลย 

  • อาการแน่นหน้าอก

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอาการที่หลาย ๆ คนมักจะพบเจอกันอยู่บ่อย ๆ และอาจจะไม่รู้ว่าอาการนี้เป็นหนึ่งในอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ซึ่งหากใครที่กำลังมีอาการดังกล่าวนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บหน้าอกด้านซ้าย หรือด้านขวา หรือหากมีอาการเหนื่อยร่วมด้วย อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนการเกิดโรคหัวใจนั่นเอง 

  • อาการเหนื่อยง่าย

รู้หรือไม่ว่าหลาย ๆ ครั้งที่เรารู้สึกเหนื่อย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม  เพราะหากเรารู้สึกว่าตนเองมีอาการหอบ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก หรือทำอะไรก็จะเหนื่อยเร็ว ซึ่งอาการนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาการที่อาจบ่งบอกได้ถึงการเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้าย โดยเฉพาะโรคหัวใจนั่นเอง 

  • อาการเป็นลมหมดสติ

หากร่างกายของเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ เลยก็คือ เราจะมีอาการเป็นลมหมดสติ บางครั้งก็อาจเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากว่าร่างกายของเราหรืออวัยวะต่าง ๆ ทำงานผิดปกติ เพราะหากหัวใจของเราทำงานผิดปกติ จนทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดทำงานผิดปกติไปด้วย

เพราะหัวใจเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่คอยสูบฉีดเลือดเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่หัวใจทำงานผิดปกติ ร่างกายของเราก็จะได้รับผลกระทบต่าง ๆ ได้ง่าย จนอาจทำให้เราเป็นลมจนหมดสติได้

เคล็ด (ไม่) ลับ ดูแลสุขภาพร่างกายสำหรับคนที่งานหนัก

เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ทุ่มเทให้กับการทำงานเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บางคนเต็มที่กับการทำงานมากเกินไปจนปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง

อาจทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ไม่ดี และไม่แข็งแรง  www.hoiana-exclusivex.com    จนอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายนั่นเอง

นอกจากนี้ยังอาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อการทำงานได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการดำเนินการใช้ชีวิตของคนเรานั้นไม่ว่าใครก็อยากที่จะมีหน้าที่การงานที่ดี มีชีวิตที่ดีได้ด้วยเวินกันทั้งนั้น ซึ่งนี่ก็อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงทุ่มเทชีวิต หรือสุขภาพร่างกายให้กับการทำงานได้ขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับช่วงนี้ใครที่ทำงานหนักเกินไป และอยากที่จะเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถมีสุขภาพร่างกายที่ดี

ได้ ไม่ว่าคุณจะทำงานหนักมากแค่ไหนรับรองได้เลยว่าหากทำตามวิธีดังกล่าวนอกจากจะช่วยให้เรานั้นมีสุขภาพ่างกายที่ดีได้แล้ว ยังทำให้การทำงานนั้นมีประสิทธิภาพได้อีกด้วยน จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย 

  • การเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ

รู้หรือไม่ว่าคนที่ทำงานหนักมาก ๆ ส่วนใหญ่จะนั่งจ้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือแทบจะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย จะส่งผลให้ร่างกายนั้นหรือกล้ามเนื้อนั้นเกิดการหดเกร็งได้ และแน่นอนว่าการที่เรามีกล้ามเนื้อที่ไม่ค่อยได้ใช้งานอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเราได้ ดังนั้น ทางที่ดีเราควรที่จะหมั่นเคลื่อนไหวร่างกาย หมั่นชยับร่างกาย เพื่อลดอาการปวดเมื่อย และเพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดีได้อีกด้วย 

  • การรับประทานอาหารให้ตรงเวลา

คนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารไม่ค่อยตรงเวลา ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่ร่างกายของเรานั้นได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ หรือไม่ตรงเวลา จะยิ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย ฉะนั้น ทางที่ดีเราควรที่จะเลือกรับประทานอาหารให้ตรงเวลา เพื่อให้ร่างกายของเรานั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  • การผ่อนคลายจากความเครียด

แน่นอนว่าการที่เราทำงานหนักเกินไปนั้นจะยิ่งทำให้เรามีความเครียด และความกดดันต่าง ๆ มากมาย ทางที่ดีหากเราไม่อยากให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย เราก็ควรที่จะผ่อนคลายจากความเครียด ทำให้ตนเองนั้นรู้สึกผ่อนคลายอยู่เสมอ เพราะเราอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าความเป็นเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพร่างกาย ทางที่ดีควรที่จะผ่อนคลายตนเองให้มาก ๆ เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง 

 

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ทั้งกายและใจ

หากพูดถึงเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกาย ขอบอกเลยว่าในสมัยปัจจุบันนี้การดูแลสุขภาพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะร่างกายของเราหากมีความแข็งแรง ก็อาจจะช่วยให้เราใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งเราดูแลสุขภาพร่างกายไม่ดี ก็อาจจะทำให้ร่างกายของเรานั้นเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย

เนื่องจากในสมัยปัจจุบันนี้โรคภัยไข้เจ็บ เป็นหนึ่งในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะในแต่ละวันนั้นเราจะต้องออกไปใช้ชีวิต ออกไปเจอกับมลพิษ มลภาวะ หรือเชื้อโรคต่าง ๆ มากมายที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของเรา

ฉะนั้น การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกาย จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่เราไม่ควรจะละเลยอย่างเด็ดขาด เพื่อให้การใช้ชีวิตของเรานั้นเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง รวมไปถึงการส่งเสริมสุขภาพจิตใจของเราให้ดีขึ้นสามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป หากใครที่ต้องการอยากสร้างสุขภาพกาย และใจให้ดีและแข็งแรง ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป

เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณนั้นมีร่างกายที่แข็งแรงได้ทั้งกายและใจ  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่    จะมีไรบ้างไปดูกันเลย 

  • การทานอาหารและดื่มน้ำให้เพียงพอ

อย่างที่เราทราบกันดีว่า การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชนื ควบคู่ไปกับการดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างเพียงพอ จะช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายของเราให้ดีขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพลังงานที่ดีให้ร่างกาย และที่สำคัญควรที่จะทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ รวมไปถึงการดื่มน้ำตามเยอะ ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย เพียงแค่นี้เราก็สามารถมีร่างกายที่ดี มีสุขภาพจิตที่ดีได้ 

  • การลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

รู้หรือไม่ว่า การที่เราดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่เป็นประจำ จะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังให้โทษแก่ร่างกายของเราแบบร้ายแรงอีกด้วย ฉะนั้น การที่เราจะดูแลสุขภาพกายและจิตใจให้ดี คือการที่เราควรจะลดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันร่างกายจากความเสี่ยงต่าง ๆ เหล่านี้ เพียงแค่นี้เราก็สามารถที่จะมีร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพจิตใจที่ดีได้

  • การตรวจสุขภาพประจำปี

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การตรวจสุขภาพประจำปีมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากเราเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เราก็จะสามารถรู้สถานะร่างกายตนเองว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้รู้และป้องกันร่างกายได้ อีกทั้งยังทำให้เรานั้นรู้สึกสบายใจในการใช้ชีวิต มีความสุข ไม่เครียด และมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้